• หลักสูตรและวิธีการสอน
เมื่อขึ้นชั้นประถม 1 เด็กๆ จะได้พบกับครูประจำชั้น ซึ่งจะติดตามเด็กๆ ต่อเนื่องไปตลอดในแต่ละชั้นปี โดยจะทำให้เด็กเกิดความมั่นคงและเคารพนบนอบต่อครู และช่วยให้ครูเข้าใจเด็กๆ ได้อย่างลึกซึ้งถึงความต้องการอันเป็นปัจเจกของเด็กแต่ละคน ในช่วงเวลานี้และต่อไปในอีกประมาณ 5-7 ปีข้างหน้า
เด็กๆ กำลังเติบโตโดยมีการพัฒนาด้านอารมณ์และความรู้สึกอย่างมาก แม้ว่าเขาจะสามารถและพร้อมสำหรับการเรียนรู้ผ่านสัมผัสของความงดงาม แต่พวกเขายังไม่พร้อมที่จะเข้าใจความคิดในเชิงนามธรรม ความทรงจำกำลังได้รับการพัฒนาผ่านจังหวะที่ดี และพื้นฐานอันเข้มแข็งจะถูกนำเสนอผ่านสื่อการเรียนต่างๆ ไม่ใช่ในเชิงให้ความรู้ แต่เป็นการนำเสนอด้วยการให้ภาพที่มีชีวิตชีวาแก่เด็ก ในวิชาหลักอย่างเช่น ภาษาไทย คณิตศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี และอื่นๆ จะเรียนในเชิงลึกโดยแบ่งการสอนเป็นช่วงๆ ละ 3 - 4 สัปดาห์ โดยผ่านตารางเรียนวิชาหลักซึ่งจะเริ่มเป็นวิชาแรกของแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม ตามโครงสร้างของหลักสูตร เด็กๆ จะได้เรียนตามความต้องการที่ตรงกับพัฒนาการ หากแต่จะไม่เรียกชื่อวิชาโดยเฉพาะในช่วงประถมต้น เช่น วิชาประวัติศาสตร์ จะสอนก็ต่อเมื่อนักเรียนมีความเข้าใจในเรื่องอดีตของตัวเองแล้ว และจะเรียนวิชาเคมีก็ต่อเมื่อเด็กเรียนรู้ที่จะสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัวว่ามันแยกออกจากกันได้
นอกเหนือจากบทเรียนหลักเหล่านี้ ยังมีวิชาที่ต้องฝึกฝน อย่างสม่ำเสมออีกอาทิเช่น วิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ได้สัมผัสวิชาปฏิบัติซึ่งเป็น ส่วนสำคัญในโรงเรียน เช่น การทำฟาร์ม การก่อสร้าง การทำสวน และวิชาอื่นๆอีก เช่น งานไม้ งานปั้น งานฝีมือ การระบายสี การวาดภาพ จิตตลีลา (ยูริธมี) ดนตรี เป็นต้น การขับร้องและการเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์ (recorder) เป็นส่วนเติมเต็มบทเรียนหลักซึ่งจะก้าวไปสู่วงดนตรีออเคสตร้าของชั้นเรียนต่อไป
เทศกาลต่างๆ เป็นส่วนสำคัญของรอบปีของโรงเรียน นอกเหนือ จากเทศกาลเหล่านี้ ยังมีเทศกาลที่จะแสดงผลงานของเด็กๆซึ่ง แต่ละชั้นเรียนจะนำงานมาแสดงร่วมกัน การศึกษานอกสถานที่ จะจัดขึ้นอย่างสัมพันธ์กับวิชาหลักที่กำลังดำเนินอยู่ เช่น ช่วงบทเรียนหลักเรื่องการทำฟาร์ม เด็กๆ จะได้มีโอกาสไปทัศนศึกษาที่ฟาร์มในท้องถิ่น เมื่อเด็กๆ ถึงช่วงวัยที่ต้องแยกจากครูประจำชั้น พวกเขาก็กำลังเริ่มเข้าสู่ระยะใหม่ของพัฒนาการ เมื่อจวนจะถึงวัยรุ่นความคิดเชิงสติปัญญาเริ่มมีอิทธิพลมาก คำถามต่างๆ การโต้แย้ง การวิจารณ์ กิจกรรมทั้งหมดของใจที่กำลังสังเคราะห์หาคำตอบกำลังเติบโตและมีพลังในช่วงเวลานี้ การศึกษาจึงต้องสนับสนุนความสามารถในการคิดที่เป็นอิสระชัดเจนด้วยความสร้างสรรค์ เด็กในช่วงวัยรุ่นจะมองหาผู้ที่เขาจะยอมรับและขอความช่วยเหลือได้